LINE it!
 @allkaset





  • เทคนิคการใช้ปุ๋ยเคมี

    รู้จักกับปุ๋ยเคมี และวิธีการใช้อย่างถูกต้อง
    N15 คือ ไนโตรเจน มีหน้าที่ เร่งการเจริญเติบโต ใส่แล้วพืชจะเขียวเข็ม โตเร็ว แต่อ่อนแอ
    P15 คือ ฟอสโฟรัส มีหน้าที่ การสร้างแป้ง-น้ำตาล ให้ต้นพืช เพื่อสะสมการออกดอก
    K15 คือ ไฟตัสเซี่ยม มีหน้าที่ ช่วยให้ผลผลิต มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น สร้างความหวาน เร่งให้แก่เร็ว (ต้นโทรม) เร่งการลงหัวของพืช
    พืชตระกูล ผักกินต้น-ใบ
    - ใช้ปุ๋ยสูตร 25-7-7 หรือ 46-0-0 หรือ 21-0-0 หรือ 30-0-0 หรือ 30-10-10 และ 46-0-0 = 1 ส่วน
    บวก 15-15-15 = 2 ส่วน ก็ได้พืชงามและแข็งแรง

    พืชตระกูลกินฝัก-ผล
    - ช่วงปลูกระยะแรกใช้ 25-7-7 หรือ 15-15-15 หรือ 16-16-16 และ 46-0-0 หรือ 30-0-0 หรือ 21-0-0
    - ระยะต้องการให้ออกดอก ใช้ 15-15-15 หรือ 16-16-16 หรือ 12-24-12 และ 8-24-24 หรือ 9-24-24
    - ระยะก่อนเก็บผลต้องการให้ แก่เร็ว-เข้าสี-น้ำหนักดี-หวาน ใช้ 13-13-21 หรือ 8-24-24 และ 0-0-60

    พืชตระกูลกินหัว
    - ช่วงปลูกระยะแรกใช้ 25-7-7 หรือ 15-15-15 หรือ 16-16-16 หรือ 46-0-0 หรือ 30-0-0 และ 21-0-0
    - ระยะเริ่มลงหัวใช้ 12-24-12 หรือ 10-30-10
    - ก่อนเก็บเกี่ยว ใช้ 0-0-60 หรือ 0-0-50 และ 10-10-30

    *** หมายเหตุ ถ้าต้นพืชเหลือง-แกรน ให้เพิ่มปุ๋ยตัวหน้า ถ้าต้นพืชงามให้หยุดปุ๋ยตัวหน้า ใช้สูตรที่มีตัวกลางตัวท้าย เช่น 8-24-24
    ข้อดีปุ๋ยเคมี
    - มีปริมาณธาตุอาหารต่อหน่วยน้ำหนักสูง ใช้ในปริมาณน้อยก็เพียงพอกับความต้องการของพืช
    - ละลายน้ำได้ดี และปลดปล่อยธาตุอาหารได้เร็ว พืชสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที
    - หาซื้อง่ายตามท้องตลาด ตามร้านขายของด้านการเกษตร
    - ถูกบรรจุในถุง สามารถขนส่ง และเคลื่อนย้ายได้ง่าย
    ข้อเสียปุ๋ยเคมี
    - มีส่วนผสมของดินขาว เมื่อใช้มากหรือใช้ในระยะเวลาต่อเนื่องหลายปีจะทำให้เนื้อดินแน่น ดินเกาะกันเป็นก้อน ระบายน้ำไม่ดี
    - หากใส่ปุ๋ยเคมีเพียงอย่างเดียวจะทำให้ปริมาณอินทรีย์วัตถุในดินน้อยลง ปริมาณจุลินทรีย์ และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในดิน เช่น ไส้เดือน มีปริมาณน้อยลง
    - ดินมีความเป็นกรดเพิ่มมากขึ้นจากปริมาณธาตุอินทรีย์ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงค่าความเค็มในดินเพิ่มขึ้น
    - หากใส่มากเกินไปอาจเป็นพิษต่อพืช
    - หากใส่ไม่ถูกต้องอาจทำให้ธาตุอาหารสูญเสียโดยเปล่าประโยชน์ ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
    - ต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องปุ๋ยเคมี หากเลือกซื้อโดยขาดความเข้าใจ เช่น ปุ๋ยสูตรใดเหมาะกับพืชที่ปลูกหรือปุ๋ยสูตรใดเหมาะกับระยะเติบโตของพืช อาจทำให้ซื้อปุ๋ยมาโดยไม่คุ้มค่า